นายชัย ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว ในวัย 91 ปี เมื่อเวลา 08.00 น. ที่บ้าน จ.บุรีรัมย์ เป็นอดีตประธานรัฐสภา และอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ก่อนหน้านี้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) หลายสมัย และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จังหวัดบุรีรัมย์ ทั้งนี้ ครอบครัวชิดชอบ แจ้งเพื่อทราบว่านายชัย ชิดชอบ อดีตประธานรัฐสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ถึงแก่กรรม เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2563 ที่บ้านพัก จังหวัดบุรีรัมย์ จะแจ้งกำหนดการพิธีสวดพระอภิธรรม ให้ทราบต่อไป และขอความกรุณางดหรีดเคารพศพ หากท่านใด มีความประสงค์จะร่วมทำบุญ ขอความกรุณาบริจาคให้แก่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วย ธนาคารกรุงไทย สาขาบุรีรัมย์ เลขที่บัญชี 308-0-70047-3 ชื่อบัญชี เงินบริจาคของโรงพยาบาลบุรีรัมย์
ม.ร.ว.ถนัดศรี เสียชีวิตอย่างสงบ สิริอายุ 93 ปี เมื่อ 11.35 น. วันที่ 27 ส.ค. ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ ศิลปินแห่งชาติ นักแสดง นักร้อง นักเขียน และนักจัดรายการวิทยุโทรทัศน์ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจากการแนะนำและจัดระดับความอร่อยของร้านอาหาร ในชื่อ “เชลล์ชวนชิม” เสียชีวิตลงอย่างสงบ ที่โรงพยาบาลเปาโล สิริรวมอายุ 93 ปี เบื้องต้น พบว่า ม.ร.ว.ถนัดศรี ได้ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย โดยญาติได้ให้การดูแลระยะประคับประคอง เพื่อไม่ให้ต้องทรมาน โดยเพจครอบจักรวาล ได้เล่าถึงอาการและระบุตอนหนึ่งว่า คืนวันที่ 25 อาการคุณพ่อได้ทรุดลงอย่างเร็ว. ทางคุณหมอเริ่มให้ยามอร์ฟีนอ่อนๆก่อนเพื่อให้คุณพ่อไม่เหนื่อย และให้อาหารทางสาย และมีการดูดเสลดออกจากปอด พ่นยา เพื่อให้คุณพ่อหายใจได้ สบายขึ้น เช้าวันที่ 26 ลูกๆหลานๆเข้ามาดูอาการคุณพ่อ. คุณพ่อมีอาการปวด เพิ่มขึ้นและมีอาการบวมที่ท้อง. เพราะมะเร็งมันเริ่มที่ท่อน้ำดี คุณหมอจึงให้ยามอร์ฟีนเพิ่มตามลำดับ. ความดันของคุณพ่อยังดีอยู่ในวันนั้นยังสงบดี เช้าวันที่ 27 คุณพ่อ อาการทรุดลงอีก. มีเลือดออกมาในกระเพาะ. คุณหมอได้ล้างกระเพาะให้ แต่อาการปวด เริ่มมากขึ้นจึงให้ ยามอร์ฟีม. เพิ่มงดอาหารและน้ำ เหลือแต่น้ำเกลือและยามอร์ฟีน. ความดันเริมลดลงมาตามลำดับ. แต่ก็ถือว่ายังไม่ทรุดลงมากนักเมื่อคืนนี้ คุณพ่อปวดมากขึ้นตามลำดับ oxygen ลดลงมาเหลือ 94-96. บางครั้งก็ต่ำกว่านั้นเมื่อคุณพ่อกลั้นหายใจ ความดันลดลงมาที่ 106 ผมค้างที่โรงแรมไกล้โรงพยาบาลเปาโลเมื่อคืน และ มาที่ โรงพยาบาลแต่เช้า. คุณพ่อปวดมากขึ้น ร้องและดิ้นไปหมด. คุณหมอ เพิ่มยามอร์ฟีนไปที่ 4 มิลิกรัม ต่อชั่วโมง เพิ่อคุณพ่อได้ไม่ทรมาน การที่เราให้ยามอร์ฟีนกับคุณพ่อนั้นต้องคำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับความดันของคุณพ่อ. ขณะนี้เป็นระยะสุดท้ายแล้วที่ทางคณะแพทย์และลูกๆจะพยายามทำให้คุณพ่อไม่เจ็บปวด. และจากเราไปอย่าสงบและไม่ทรมาน เราเพียงแต่ดูอาการต่อไป. แต่ก็ต้องเริ่มทำใจสวดมนและเตรียมตัวสำหรับการจากไปของคุณพ่อที่เราทุกดนรักและ เทิดทูนเหนือส่งใดในชีวิต หม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ เกิดเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2469 เป็นศิลปินแห่งชาติ นักแสดง นักร้อง นักเขียน และนักจัดรายการวิทยุโทรทัศน์ มีชื่อเสียงจากการเป็นผู้แนะนำและจัดระดับความอร่อยของร้านอาหาร ในชื่อ "เชลล์ชวนชิม"ด้วยสัญลักษณ์ชามลายผักกาดอันแสนคุ้นตา ผ่านทางหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ตั้งแต่ พ.ศ. 2504 หม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ สมรสครั้งแรกกับ หม่อมหลวงประอร มาลากุล มีบุตร 2 คน คือ หม่อมหลวงศิริเฉลิม สวัสดิวัตน์ (คุณหมึกแดง), พลตรี หม่อมหลวงเพิ่มวุทธ์ สวัสดิวัตน์ (คุณจิ๋ว) และสมรสครั้งที่ 2 กับ นางโรจนา สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา (สกุลเดิม สวนรัตน์) มีบุตร 1 คน คือ หม่อมหลวงภาสันต์ สวัสดิวัตน์ (คุณอิงค์) ที่มา https://www.facebook.com/krobchakraval/posts/2513708118651840 https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_2838719 https://www.sanook.com/news/7877951/
วงการศิลปะของประเทศ ด้านทัศนศิลป์ สูญเสียศิลปินชั้นครู ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบประยุกต์ศิลป์ คือ นายพินิจ สุวรรณะบุณย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (การออกแบบประยุกต์ศิลป์) พ.ศ.2536 ที่จากไปด้วยโรคชรา ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2562 เวลา 04.10 น. สิริอายุรวม 93 ปี โดยจะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ วันที่ 31 พ.ค. 2562 เวลา 17.00 น. ณ ศาลา 17 วัดหัวลำโพง กรุงเทพมหานคร และกำหนดสวดพระอภิธรรม ระหว่างวันที่ 31 พ.ค. ถึง 5 มิ.ย. 2562 เวลา 18.30 น. (ในพระบรมราชานุเคราะห์) การสวดพระอภิธรรม เว้นวันที่ 3 มิ.ย. ซึ่งญาติจะเก็บศพไว้บำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 100 วัน โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม จะดำเนินการขอพระราชทานเพลิงศพให้ต่อไป อธิบดี สวธ. เผยต่อว่า ในส่วนของการช่วยเหลือด้านต่างๆ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จะดำเนินการมอบเงินช่วยเหลือเมื่อเสียชีวิต เพื่อร่วมการบำเพ็ญกุศลศพ จำนวน 20,000 บาท และเงินช่วยเหลือค่าจัดทำหนังสือเพื่อเผยแพร่ผลงานเมื่อเสียชีวิตเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 150,000 บาท สำหรับประวัติของนายพินิจ สุวรรณะบุณย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (การออกแบบประยุกต์ศิลป์) พุทธศักราช 2536 เกิดเมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2469 เป็นนักออกแบบประยุกต์ศิลป์อาวุโสคนสำคัญ ที่มีผลงานดีเด่นเป็นที่ยอมรับในวงการศิลปะและการออกแบบ ได้อุทิศตนให้กับงานศิลปะและการออกแบบอย่างได้ผลดี นอกจากมีความสามารถในการสร้างสรรค์แล้ว ยังทำหน้าที่ในการอนุรักษ์และสืบต่อศิลปะแบบประเพณีอย่างต่อเนื่อง ออกแบบเหรียญตรา เครื่องหมาย ซึ่งใช้ในพระราชพิธีและในงานของราชการที่สำคัญเป็นจำนวนมาก อีกทั้งเขียนภาพและคัดเลือกจิตรกรรมไทยแบบประเพณีเพื่อการตกแต่งและงานอนุรักษ์ นอกจากนี้ อาจารย์พินิจ ยังได้มุ่งมั่นสร้างสรรค์ เผยแพร่ผลงานศิลปะในการอนุรักษ์และสืบต่อศิลปะแบบประเพณีอย่างต่อเนื่อง และออกแบบงานประยุกต์ศิลป์มาเป็นเวลาอันยาวนานกว่า 50 ปี ซึ่งท่านใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ดำรงตนด้วยคุณธรรม ยังประโยชน์แก่สังคม เป็นศิลปินที่อยู่ในคุณงามความดี เป็นแบบอย่างแก่อนุชนรุ่นหลังได้ดำเนินรอยตามสืบสาน จึงได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (การออกแบบประยุกต์ศิลป์) พุทธศักราช 2536 ขอบคุณ https://www.dailynews.co.th/education/712098?fbclid=IwAR39Nr_h4RO2FWAOUEIBEKvqMNapgOVgZf_e2IqOP6-mHKm64PRtWrgtZDE
พลเอกเปรม ติณสูลานนท์" ถึงแก่อสัญกรรมอย่างสงบในวัย 98 ปี หลังมีอาการป่วยหัวใจล้มเหลวและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล เมื่อวันที่ 26 พ.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และ รัฐบุรุษได้ถึงแก่อสัญกรรมอย่างสงบที่โรงพยาบาลพระมงกุฏ เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ หลังจากมีอาการป่วยระบบหัวใจล้มเหลวและเจ้าหน้าที่ได้นำส่งโรงพยาบาล สิริอายุได้ 98 ปี พลเอกเปรม เกิดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2463 ที่บ้านบ่อยาง ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา เป็นบุตรของรองอำมาตย์โทหลวงวินิจทัณฑกรรม (บึ้ง ติณสูลานนท์) ตำแหน่งพะทำมะรง (พัศดี) เมืองสงขลา (พ.ศ. 2457)กับนางวินิจทัณฑกรรม (ออด ติณสูลา-นนท์) มีพี่น้อง 8 คน ชื่อ "เปรม" นั้น พระรัตนธัชมุนี (แบน คณฺฐาภรโณ) เป็นผู้ตั้งให้ ส่วนนามสกุล "ติณสูลานนท์" พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานให้ เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2462 พลเอกเปรม เคยดำรงตำแหน่งนายกฯของไทย 3 สมัย ระหว่างปี 2523 ถึง 2531 บุคลิกส่วนตัวพลเอกเปรมเป็นคนพูดน้อย ในขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย จะให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนน้อยมาก จนถูกหนังสือพิมพ์ในขณะนั้นเรียกขานว่า"เตมีย์ใบ้" และได้รับอีกฉายาหนึ่งว่า นักฆ่าแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา จากเหตุการณ์กบฏเมษาฮาวายและกบฏ 9 กันยา หลังพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันที่ 3 สิงหาคม 2531 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้พลเอกเปรม เป็นองคมนตรี ในวันที่ 23 สิงหาคม 2531 จากนั้นในวันที่ 29 สิงหาคม 2531 ได้รับโปรดเกล้าฯ ยกย่องให้เป็นรัฐบุรุษ และในวันที่ 4 สิงหาคม 2541 มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ให้เป็นประธานองคองคมนตรี พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการให้ พลเอกเปรม ลงนามในสมุดจดทะเบียนราชาภิเษกสมรส ในฐานะสักขีพยาน ใน วันที่ 1 พฤษภาคม 2562 ชีวิตส่วนตัว พลเอกเปรม ชื่นชอบดูการแข่งขันกีฬา โดยเฉพาะกีฬามวยและฟุตบอล มักเปิดโอกาสให้นักกีฬาเข้าพบเพื่อคารวะ และให้กำลังใจ ก่อนจะเดินทางไปแข่งขันในต่างประเทศอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังชื่นชอบการร้องเพลง ระยะหลังได้ฝึกหัดเล่นเปียโนกับ ณัฐ ยนตรรักษ์ และประพันธ์เพลงเป็นงานอดิเรก พลเอกเปรมมีผลงานเพลงบันทึกเสียงจำหน่าย บรรเลงดนตรีโดย กองดุริยางค์ทหารบก อ่านต่อได้ที่ : https://www.posttoday.com/politic/news/590184
ข่าวเศร้า รับปี 2562 เมื่อนักแสดงอาวุโส "สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์" เสียชีวิตแล้ว ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด มีพิธีศพที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ศาลา กุฏิ 2000 ฝั่งเจดีย์ วันที่ 6 ม.ค. สะอาด เปี่ยมพงศ์สาน นักแสดงอาวุโส เสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาลวชิระ สามเสน ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด เมื่อเวลา 08.04 น. ของวันนี้ (อาทิตย์ที่ 6 มกราคม 2562) โดยจะมีพิธีศพที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ศาลา กุฏิ 2000 ฝั่งเจดีย์ ส่วนกำหนดรดน้ำศพ กำลังติดต่อขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ จะแจ้งอีกครั้ง สำหรับ สะอาด เปี่ยมพงศ์สาน มีผลงานแสดงมากมาย และก่อนเสียชีวิตก็มีละคร ริมฝั่งน้ำ ทางช่อง 3 ออนแอร์ ขอบคุณข่าวจาก : https://www.thairath.co.th/content/1462759
สุดเศร้า พ่อดม ชวนชื่น จากไปอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งตับ ในวัย 83 ปี หลังจากที่ตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งตับระยะสุดท้ายเมื่อ 7 เดือนก่อน และลูกๆ ส่งไปรักษาตัวที่ประเทศจีน ก่อนจะกลับมาเข้ารับการรักษาตัวด้วยโรคมะเร็งตับที่โรงพยาบาลมานาน เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ่อดม ชวนชื่น อายุ 84 ปี ตลกอาวุโสของวงการบันเทิง ได้จากไปอย่างสงบ ด้วยโรคมะเร็งตับ ที่ รพ.พระนั่งเกล้า สร้างความเสียใจให้กับพี่น้องในวงการตลกและวงการบันเทิง สำหรับ พ่อดม ชวนชื่น เป็นชาวบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ครอบครัวมีอาชีพเป็นลิเก โดยพ่อดม ชวนชื่น ชอบเรื่องดนตรี จึงสามารถเล่นเครื่องดนตรีที่ใช้ในการแสดงลิเกได้ทุกชิ้น ก่อนชีวิตจับพลัดจับผลู เข้ามารับบทเป็นพระเอกลิเก จากนั้นเข้าสู่วงการตลกและวงการบันเทิง เป็นที่เคารพรักของพี่น้องตลกและคนในวงการบันเทิง กระทั่งจากไปอย่างสงบ ประวัติในวงการศิลปินของอุดม ทรงแสง เกิดในครอบครัวลิเก เล่นลิเกและดนตรีไทยได้หลายชนิด โดยเฉพาะระนาด เมื่อเติบโตมีประสบการณ์มากขึ้นออกมาเล่นดนตรีและตลกในวงดนตรีลูกทุ่งหลายวง ช่วงอยู่กับวงเพลิน พรหมแดน ได้แต่งเพลง“พิษรักพิษณุโลก”มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก หลังจากถึงจุดอิ่มตัวกับวงลูกทุ่ง อุดมได้ออกมาตั้งคณะตลก“ชวนชื่น” โดยมีลูกๆหลานๆเป็นชาวคณะ อาทิ จิ้ม ชวนชื่น, จอย ชวนชื่น, แจ๊ส ชวนชื่น, ต๋อง ชวนชื่น, แอนนา ชวนชื่น และค่อม ชวนชื่น เป็นตัวชูโรง รับงานแสดงตามห้องอาหาร, คาเฟ่ และรายการทีวี เมื่ออายุมากขึ้นจึงหยุดงานแสดงออกมาพักผ่อนในชีวิตบั้นปลายกระทั่งเสียชีวิต ขอบคุณข่าวจาก: https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_1997502
ได้ฤกษ์แล้วงานพระราชทานเพลิงศพ “หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ” เกจิดังแดนอีสาน ผู้เป็นเทพเจ้าแห่งด่านขุนทด มหาวิทยาลัยขอนแก่นและศิษยานุศิษย์จัดกำหนดการเคลื่อนสรีระสังขารและทำพิธีสวดพระอภิธรรมศพที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก 21-28 ม.ค.2562 พร้อมเปิดให้ประชาชนร่วมเป็นเจ้าภาพวันละ 4 รอบ ก่อนพระราชทานเพลิงศพ 29 ม.ค.2562 กำหนดฤกษ์เผาจริงเวลา 22.15 น. คณะกรรมการจัดงานพระราชทานเพลิงศพเตรียมรับมือคลื่นมหาชนทั่วทุกสารทิศมุ่งขอนแก่นร่วมไว้อาลัยครั้งสุดท้ายพระสงฆ์แห่งที่ราบสูงที่คนไทยเคารพรักมากที่สุดรูปหนึ่ง เผยเมรุลอยอลังการเป็นรูปนกหัสดีลิงค์เทินบุษบก สูงเท่าตึก 5 ชั้น ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดงานพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่ และพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ เป็นกรณีพิเศษ ประจำปี 2561 รวม 647 ร่าง เปิดเผยว่า คณะกรรมการจัดงานฯ ได้จัดเตรียมสถานที่จัดงานพระราชทานเพลิงศพฯ คือที่อาคารศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น และที่เมรุลอยชั่วคราว วัด หนองแวง (พระอารามหลวง) บริเวณพุทธมณฑลอีสาน กำหนดการจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.62 โดยมีพิธีบรรจุสรีระสังขารหลวงพ่อคูณลงในหีบศพที่ทำจากไม้หอม วันรุ่งขึ้นเวลา 06.00 น. จะเคลื่อนร่างครูใหญ่ ทั้งหมดจากคณะแพทยศาสตร์ ไปยังศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก ส่วนหลวงพ่อคูณจะเคลื่อนไปที่ศูนย์ประชุมฯในเวลา 13.00 น. ทำพิธีขอขมาครูใหญ่ทั้งหมด คณบดีคณะแพทยศาสตร์กล่าวอีกว่า ส่วนพิธีสวดพระอภิธรรมศพมีขึ้นระหว่างวันที่ 21-28 ม.ค.62 พระสงฆ์ 10 รูปสวดพระอภิธรรม ทุกวัน วันละ 4 รอบเริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น.-14.00 น.-17.00 น. และรอบสุดท้าย 19.00 น. แต่ละรอบเปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมเป็นเจ้าภาพ 11 คณะ คณะละ 50 ท่าน ผู้สนใจจะต้องแจ้งความประสงค์กับมหาวิทยาลัยหรือลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์มหาวิทยาลัย กำหนดปัจจัยร่วมถวายในการเป็นเจ้าภาพคณะละ 30,000 บาท และจะเปิดให้ประชาชนเข้ากราบหลวงพ่อคูณเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมวางดอกไม้จันทน์ 2 จุด คือที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษกและที่ฐานเมรุลอยชั่วคราว วัดหนองแวง ประชาชนที่ร่วมวางดอกไม้จันทน์จะได้รับหนังสืออนุสรณ์หลวงพ่อคูณเล่มเล็กเป็นที่ระลึกและในงานจะไม่มีการจัดทำเหรียญที่ระลึกแจกจ่าย ศ.นพ.ชาญชัยกล่าวอีกว่า ส่วนวันที่ 29 ม.ค.ตั้งแต่ช่วงเช้าจะมีพิธีถวายภัตตาหารพระภิกษุ สามเณร และพระพรหมมังคลาจารย์ (ธงชัย ธมฺมธโช) ที่ปรึกษา เจ้าคณะภาค 8 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร กรุงเทพมหานคร แสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ สวดมาติกาบังสุกุล ทอดผ้าบังสุกุล แล้วมีพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่ทั้งหมด 647 ร่าง ในเวลา 10.40 น. แล้วจึงเคลื่อนย้ายร่างครูใหญ่ทั้งหมดไปยังฌาปนสถานวัดต่างๆในจังหวัดขอนแก่น ขณะเดียวกัน ในเวลาเที่ยงตรง จะมีการเคลื่อนสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ไปยังวัดหนองแวง เพื่อพระราชทานเพลิงสรีระสังขาร ในเวลา 17.00 น. และจะมีพิธีเผาจริงในเวลา 22.15 น. วันรุ่งขึ้นจะมีพิธีทำบุญอัฐิและมอบอัฐิแก่ญาติครูใหญ่ แล้วจึงเดินทางไปลอยอังคารและเถ้าอัฐิหลวงพ่อคูณ ที่แม่น้ำโขง จังหวัดหนองคาย ด้าน รศ.ดร.นิยม วงศ์พงษ์คำ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า งานพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ที่พุทธมณฑลอีสาน เป็นไปตามขนบธรรมเนียมประเพณีของกลุ่มชาติพันธุ์ไทย โดยได้จัดสร้างเมรุลอยชั่วคราวบนพื้นที่ 15 ไร่ ตัวเมรุเป็นนกหัสดีลิงค์เทินบุษบก บนฐานรูป 8 เหลี่ยม 2 ชั้น รวมความสูงจากฐานถึงยอดเทียบเท่าตึก 5 ชั้น พื้นที่บริเวณนี้จะรองรับผู้ร่วมงานได้ประมาณ 1,000 คน ขณะที่ประชาชนทั่วไปร่วมงานได้บริเวณพุทธมณฑลอีสาน โดยจะมีการลิงค์สัญญาณถ่ายทอดสดภายในงานให้ได้รับชมเป็นจุดๆ รศ.ดร.นิยมกล่าวอีกว่า การจัดทำเมรุลอยนกหัสดีลิงค์ มีความคืบหน้าไปมาก ตัวนกทำด้วยโครงไม้ หุ้มด้วยไม้ไผ่สานแปะด้วยกระดาษ ด้านบนเป็นบุษบก ทั้งหมดจะตกแต่งเป็นโทนสีขาวสื่อถึงความเรียบง่าย สมเกียรติและยังสื่อถึงความบริสุทธิ์ เสมือนเป็นการส่งดวงวิญญาณสู่สรวงสวรรค์ ยกเว้นส่วนบนยอดฉัตรนกหัสดีลิงค์ จะเป็นสีทอง ส่วนฐานจะสร้างเป็นรูป 8 เหลี่ยม 2 ชั้น กว้าง 16 เมตร เมื่อรวมความสูงจากฐานถึงยอดจะสูงเทียบเท่าตึก 5 ชั้น โดยจะเคลื่อนย้ายทุกส่วนไปประกอบยังลานพิธีประมาณวันที่ 7 ม.ค.2562 คาดว่าจะประกอบตกแต่งแล้วเสร็จภายในวันที่ 20 ม.ค.2562 นอกจากนี้เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ได้ทำพิธีและเคลื่อนย้ายเตาเผาที่ทำด้วยอิฐทนไฟไปยังลานพิธีแล้ว โดยเตาเผาจะอยู่ภายในตัวนก ภายในจะบรรจุหีบศพหลวงพ่อคูณ โดยหีบศพอยู่ระหว่างการจัดทำลวดลายเป็นชีวประวัติหลวงพ่อคูณตั้งแต่วัยเยาว์จนถึงละสังขาร แล้วลงรักปิดทอง ใต้หีบศพจะถูกรองด้วยไม้รองฟืนและไม้จิกรวม 135 ท่อน ด้านล่างจะทำเป็นกล่องสเตนเลสมีตะแกรงด้านบน เมื่อเผาเสร็จอัฐิจะตกลงในกล่องทันที ขอบคุณข่าวจาก: https://www.thairath.co.th/content/1451606?fbclid=IwAR2gsWyB3kzC96lh79vnhXiuZL0oJE8WHiRLJHKRs5VjaXucmRmGq-hjUsg
เป็นข่าวช็อกสุดเศร้าของวงการบันเทิง เมื่อเวลาประมาณ 02.00 วันที่ 4 ธันวาคม 2561 เปี๊ยก พิศาล อัครเศรณี คุณพ่อของนักแสดงชื่อดัง อ้อม พิยดา ผู้เป็นทั้งผู้กำกับ นักแสดงชั้นครู เจ้าของฉายา "พระเอกซาดิสต์" หรือ "ผู้กำกับซาดิสต์" ต้นตำรับพระเอกตบจูบ ได้เสียชีวิตกะทันหันด้วยอาการหัวใจวายในวัย 73 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ทำการรักษามาตลอดหลายปี พิศาล อัครเศรณี หรือ เปี๊ยก เกิดวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ.2488 เป็นผู้กำกับ นักแสดง โฆษก มีผลงานภาพยนตร์ไทยสร้างชื่ออย่าง “เพลงสุดท้าย” เป็นผู้ที่ได้รับฉายาว่า “พระเอกซาดิสต์” หรือ “ผู้กำกับซาดิสต์” เนื่องจากมักได้รับบทหรือกำกับละครหรือภาพยนตร์ที่พระเอกมักจะทำร้ายนางเอกด้วยการตบตี แต่ลงท้ายด้วยการจูบหรือแสดงความรัก ทำให้นางเอกใจอ่อนทุกที พิศาลเป็นน้องชายของกิตติ อัครเศรณี อดีตผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ชื่อดัง จบการศึกษาระดับมัธยมที่โรงเรียนวัดบวรนิเวศ โดยในขณะที่ศึกษาวัดบวรก็ได้รู้จักกับ แดง ไบเล่ และเคยยกพวกตีแถวสิบสามห้าง และจบด้านการแสดงที่โรงเรียนการกำกับการแสดง แผนกวิทยุโทรทัศน์ วอชิงตัน ดี.ซี. เริ่มทำงานที่สำนักข่าวสารอเมริกัน ก่อนจะเข้าไปคลุกคลีกับงานทั้งวิทยุ-โทรทัศน์ อาทิ วิทยุของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยังเคยเป็นโฆษกที่ช่อง 3 รวมทั้งเป็นนักแสดงอีกด้วย เริ่มงานกำกับการแสดงครั้งแรกในละครเรื่อง “สกาวเดือน” ออกอากาศทางช่อง 9 ส่วนการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกคือ “ฟ้าหลังฝน” ผลงานดัง อาทิ มนต์รักอสูร ปี 2518 (ช่อง 9) , ขุนศึก ปี 2520 (ช่อง 5) , ดอกฟ้าและโดมผู้จองหอง ปี 2521 (ช่อง 9) ขอบคุณข่าวจาก: https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_1909903
วันที่ 1 ธ.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายจอร์จ เอช.ดับเบิลยู บุช อดีต ประธานาธิบดีสหรัฐ คนที่ 41 ได้เสียชีวิตแล้ว เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมา (ตามเวลาสหรัฐฯ) ด้วยอายุ 94 ปี หลังจากที่ป่วยมาเป็นระยะเวลานาน จนต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลก่อนจะเสียชีวิตในที่สุด นายจอร์จ เอช.ดับเบิลยู บุช เป็นบิดาของ นายจอร์จ ดับเบิลยู บุช อดีตประธานาธิบดีคนที่ 43 ถือเป็นพ่อลูกคู่ประวัติศาสตร์ที่ได้เป็นผู้นำของสหรัฐอเมริกาทั้งคู่ โดย บุช ผู้พ่อนั้นดำรงตำแหน่งระหว่างปี พ.ศ.2532-2536 อดีตเคยเป็นนักบินสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนจะลงเลือกตั้งจนได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีดังกล่าว ซึ่งมีผลงานที่โด่งดังในการนำชาติพันธมิตรทำสงครามขับไล่ประเทศอิรักจากการยึดครองคูเวต ขอบคุณข่าวจาก: https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_1898831/
วงการวรรณกรรมไทยสูญเสียครั้งใหญ่ อ.อาจินต์ ปัญจพรรค์ ศิลปินแห่งชาติ สาขา วรรณศิลป์ พุทธศักราช 2534 เจ้าของผลงานอมตะเรื่องสั้นชุดเหมืองแร่ จากไปด้วยอาการสงบ เมื่อวันที่ 17 พ.ย.เวลา 17.44 น. สิริอายุ 91 ปี โดยมีพิธีรดน้ำวันที่ 18 พ.ย.เวลา 16.00 น. ณ วัดตรีทศเทพ ศาลา 9 นายอาจินต์ ปัญจพรรค์ เกิดเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2470 ที่จังหวัดนครปฐม เป็นนักเขียนที่ประสบการณ์ความสำเร็จสูงมาก สร้างงานอันสะท้อนประสบการณ์ชีวิตสามารถดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน นอกจากความจัดเจนในการเขียนเรื่องสั้นซึ่งเป็นที่ยอมรับว่าเป็นต้นแบบของเรื่องสั้นไทยยุคใหม่แล้ว ยังสามารถกรองประสบการณ์ออกมาในรูปลักษณะอื่น ได้แก่ บทความ นวนิยาย บทละครวิทยุ บทละครโทรทัศน์ บทร้อยกรอง และบทเพลงไทยสากล โดยสามารถจับวิญญาณของชนบทไทยได้อย่างน่าประทับใจ เข้าถึงความคิดและวิถีชีวิตของกลุ่มอาชีพต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ผลงานวรรณกรรมเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งชีวิตชีวา เปี่ยมด้วยเสน่ห์ที่ผูกพันอยู่กับผืนดินและผืนน้ำ อันเป็นพื้นเพของกลุ่มคนที่ใช้ชีวิตอย่างเข้มข้น โลกวรรณกรรมของอาจินต์ ปัญจพรรค์ เป็นโลกที่ธรรมชาติกับมนุษย์ประสานสัมพันธ์กันเป็นเอกภาพแนบสนิท ในฐานะบรรณาธิการเป็นผู้มีคุณูปการมากหลายต่อนักเขียนร่วมรุ่น นักเขียนรุ่นใหม่และนักเขียนอาวุโส จนเป็นที่ยกย่องนับถือในวงการวรรณกรรมไทย นายอาจินต์ ปัญจพรรค์ จึงได้รับการประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พุทธศักราช 2534 .-สำนักข่าวไทย
เกียรติประวัติ
chapanakij.com
